โรคอ้วน เกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณไขมันในร่างกายที่มากเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง โรคที่ซับซ้อนนี้อาจเป็นผลมาจากปัจจัยที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม อาหาร ปัจจัยส่วนบุคคล ตลอดจนการเลือกออกกำลังกาย การลดน้ำหนักสามารถช่วยรักษาและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ โดยอาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง รวมถึงการเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้แพทย์อาจให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่คนไข้ เช่น การให้ยา หรือขั้นตอนทางการแพทย์อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการลดน้ำหนัก
อาการของโรคอ้วน หรือภาวะน้ำหนักเกิน
โดยทั่วไปคนไข้จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วนหากดัชนีมวลกายหรือ BMI สูงถึง 30 หรือมากกว่า ค่าดัชนีมวลกายสามารถประมาณไขมันในร่างกายได้ แต่ไม่สามารถวัดไขมันในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ค่าดัชนีมวลกายอาจสูงในคนที่มีกล้ามเนื้อมาก ซึ่งอาจไม่มีไขมันส่วนเกินในร่างกายได้เช่นกัน
สาเหตุของภาวะอ้วน
ภาวะอ้วนสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการบริโภค พฤติกรรมการใช้ชีวิต กรรมพันธุ์ อายุ ปัจจัยทางการแพทย์ที่อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะอ้วน รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ อย่างสภาพแวดล้อม หรือสถานภาพทางเศรษฐกิจด้วย
ภาวะแทรกซ้อนของภาวะอ้วน
ภาวะอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ปัญหาในระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดตามกระดูกข้อต่อ ปวดหลัง ข้อเสื่อม เกิดนิ่วในถุงน้ำดี โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งต่าง ๆ การป้องกันไม่ให้น้ำหนักเกิน
คุณอาจลดความเสี่ยงของโรคอ้วนได้โดย
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- รัปประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
- หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้คุณต้องทาน
- ตรวจสอบน้ำหนักตัวเป็นประจำ
- คงพฤติกรรมที่สม่ำเสมอไปจนถึงการเกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและเรื้อรังมากยิ่งขึ้น
การวินิจฉัยโรคอ้วน
แพทย์อาจทำการทดสอบบางอย่างเพื่อวินิจฉัยโรคอ้วนและตรวจสอบปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคอ้วน การทดสอบอาจรวมถึง
- การทบทวนประวัติสุขภาพ
- การตรวจร่างกาย
- การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย
- การวัดรอบเอว
- ตรวจสอบปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
- การตรวจเลือด
การรักษาโรคอ้วน
วัตถุประสงค์ของการรักษาคือการเข้าถึงและรักษาน้ำหนักให้แข็งแรง คุณอาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนิสัยบางอย่างของคุณหรือแพทย์อาจแนะนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพรวมทั้งนักกำหนดอาหารที่ปรึกษาด้านพฤติกรรมหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอ้วนอาจทำงานร่วมกับคุณเพื่อสร้างโปรแกรมลดน้ำหนักที่ช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามแผนได้
โปรแกรมอาจแนะนำให้คุณปฏิบัติตามแผนการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงอาหารจุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือการลดแคลอรี่และฝึกนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ แผนการรับประทานนี้อาจใช้เวลาประมาณหกเดือนขึ้นไปโดยดำเนินการต่อเนื่องอย่างน้อยหนึ่งปี แผนนี้อาจรวมถึง
- การลดปริมาณแคลอรี่
- ทำให้อิ่มโดยการเลือกรับประทาน เช่น การบริโภคผักและผลไม้จำนวนมากที่มีแคลอรี่น้อย
- เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- การจำกัดปริมาณอาหารบางกลุ่ม เช่น คาร์โบไฮเดรตและไขมัน
- การทดแทนมื้ออาหาร
- การออกกำลังกายและการทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพ
- การออกกำลังกายและกิจกรรมทางกายอื่น ๆ เป็นส่วนสำคัญของการรักษา
นอกเหนือจากโปรแกรมลดน้ำหนักแพทย์อาจแนะนำ
- ยาลดน้ำหนักทางการแพทย์
- ขั้นตอนและการผ่าตัดบางอย่าง เช่น
- ขั้นตอนการส่องกล้องเพื่อลดน้ำหนัก
- การผ่าตัดลดน้ำหนักเช่น
- การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารโดยการทำ Bypass
- แถบรัดกระเพาะอาหารที่ปรับได้
- การผ่าตัดลำไส้เล็กส่วนต้น (Biliopancreatic diversion with duodenal switch)
การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารแบบ Gastric sleeve
การป้องกันภาวะอ้วนภาวะอ้วนที่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต สามารถป้องกันได้โดยการควบคุมอาหารและควบคุมพฤติกรรมการบริโภค เช่น รับประทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลมาก ดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือน้ำอัดลม ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รวมถึงชั่งน้ำหนักอยู่เสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การรักษาอื่น ๆ
- การสกัดกั้นสัญญาณประสาท
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– medparkhospital.com
– เว็บพบแพทย์
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM