เคล็ดลับดูแลผิวช่วงฤดูหนาว

ปัญหายอดฮิตในช่วงที่อากาศเริ่มเย็น คือ ผิวเริ่มแห้งลอก บางคนผิวมันอยู่แล้วก็ยังกลายแห้งลอกได้เป็นเพราะ พออากาศเย็นลง ความชื้นสัมพัทธ์รอบตัวลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากขึ้น ผิวมี TEWL มากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้กำแพงผิวอ่อนแอ ผิวแห้ง แตก ระคายเคืองอักเสบตามมา และหากเราไม่ดูแลเอาใจใส่ สิ่งที่ตามมาก็คือ ริ้วรอยและความเหี่ยวก่อนวัยนั่นเอง 

แนะนำวิธีการดูแลผิวฤดูหนาว ดังนี้

1.การอาบน้ำ

  • ใช้น้ำอุ่น ไม่ควรร้อนเกินไป
  • ไม่อาบน้ำนานเกิน 5-10 นาที
  • หากไม่สกปรกมาก อาบน้ำวันละครั้งถือว่าเพียงพอ
  • ครีมอาบน้ำ แนะนำ gentle cleanser ค่า pH ประมาณ 5-5.5 เพื่อให้ผิวมีความสมดุล ไม่แนะนำให้ใช้สบู่ก้อน หรือ ครีมอาบน้ำที่เป็นด่างเกินไปซึ่งสังเกตได้ว่าหลังอาบแล้วผิวจะตึงเอี๊ยด

2.ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย

  • ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและกาย แนะนำให้ทาหลังล้างหน้าและอาบน้ำภายใน 3 นาที ตอนผิวยังหมาดหลังซับด้วยผ้าขนหนู จะเป็นช่วงที่ประสิทธิภาพของการทาครีมมากสุด
  • หากผิวแห้งมาก แนะนำรูปแบบ Ointment หรือ Cream จะช่วยบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นผิวได้ดีกว่าแบบ Lotion
  • มองหาส่วนผสมพื้นฐานที่ช่วยเสริม Physiological lipids หรือ ไขมันธรรมชาติที่ผิวนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ceramide 1, 3, 6 และ Cholesterol ยกตัวอย่าง Cerave PM Lotion (รายละเอียดเพิ่มเติมในรูปท้าย)
  • อาจเสริมด้วยส่วนผสมเหล่านี้ ได้แก่ Jojoba oil, Dimethicone, Glycerin, Hyaluronic acid, Lactic acid, Lanolin, Mineral oil, Petrolatum, Shea butter
  • หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อการแพ้หรือระคายเคือง เช่น Fragrance แต่หากใครใช้แล้วไม่มีปัญหา ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามอะไร

3.บำรุงผิวริมฝีปาก

  • ทาด้วย Lip balm บ่อย ๆ

4.บำรุงผิวมือและเล็บ

  • ใช้ครีมทามือด้วยส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ
  • ทาวาสลีนบริเวณจมูกเล็บ ช่วยลดการแห้งลอกเป็นขุยได้ดี
  • ใส่ถุงมือเมื่อออกไปข้างนอกที่อากาศหนาว เพื่อปกป้องจากความเย็นและลม

5.เลือกเสือผ้า

  • แนะนำผ้า cotton หรือ silk ที่เนื้อผ้าไม่ระคายเคืองผิว เนื่องจากผิวที่แห้งจะยิ่งระคายเคืองได้ง่ายมากขึ้น บางครั้งหากใส่เสื้อขนสัตว์บางคนระคายเคืองจนเกิดผิวอักเสบตามมาได้

6.ใช้ Humidifier ในห้อง เพื่อช่วยเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์โดยรอบกาย ทำให้ความชื้นผิวเพิ่มขึ้นได้

หากใครที่ดูแลผิวตามนี้แล้ว เราจะสังเกตได้เลยว่า

  • ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
  • ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง
  • ผิวระคายเคืองต่อสิ่งต่าง ๆ น้อยลง เช่น ฝุ่น, เสื้อผ้า

โดยรวมจะรู้สึกเลยว่าหากผิวชุ่มชื้นแล้ว เราจะสบายผิวมากกว่าเดิมและส่วนใหญ่ผิวจะดีขึ้นไม่เกิน 1-2 สัปดาห์

หากหากผิวยังแห้งคันมากอยู่หลังจากปรับการดูแลผิวไป 1-2 สัปดาห์แล้ว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่อาจทำให้ผิวแห้งได้ เช่น

  • โรคผิวหนังอักเสบ, ภูมิแพ้ผิวหนัง
  • โรคตับ, ไต, ไทรอยด์, มะเร็งบางชนิด
  • ขาดวิตามินหรือสารอาหารบางอย่าง
  • ยาบางชนิด, อาหารบางอย่าง
  • อายุ เป็นต้น


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– เพจ Hello Skin by หมอผิวหนัง
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

ยังไม่มีบัญชี