หนองในแท้ vs หนองในเทียม ต่างกันอย่างไร? ใช้ยารักษาแบบเดียวกันไหม?

หนองในมี “แท้” และ “เทียม” จริงหรือ?

ใช่ครับ!แม้หลายคนจะเรียกรวมกันว่า “หนองใน” แต่ในทางการแพทย์ หนองในมี 2 ประเภทที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ:

1. หนองในแท้ (Gonorrhea) – เกิดจากเชื้อ Neisseria gonorrhoeae
2. หนองในเทียม (Nong-gonococcal urethritis, NGU) – มักเกิดจาก Chlamydia trachomatis หรือเชื้อแบคทีเรียอื่น

ทั้งสองชนิดสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีอาการใกล้เคียงกันมาก
แต่ ใช้ยาไม่เหมือนกันเสมอไป

ตารางเปรียบเทียบหนองในแท้ vs เทียม

สรุปง่าย ๆ:

• หนองในแท้ → หนองไหลเยอะ อาการชัด รักษาด้วย ยาฉีด + ยากิน
• หนองในเทียม → อาการไม่ชัด แต่ รักษาด้วยยากินเท่านั้น

จำเป็นต้องตรวจแยกไหม?

✅ จำเป็น
เพราะถ้าใช้ยาไม่ตรงกับชนิดของเชื้อ อาจไม่หาย และอาจทำให้เชื้อดื้อยาในอนาคตได้
การวินิจฉัยที่ถูกต้องจะใช้การตรวจ PCR หรือ NAAT ที่สามารถระบุเชื้อได้แม่นยำทั้งสองชนิด

ถ้าไม่รู้ว่าเป็นหนองในแบบไหน ควรทำอย่างไร?

• พบแพทย์หรือไปตรวจที่คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• หรือปรึกษาเภสัชกรเพื่อประเมินเบื้องต้น
• หากมีอาการรุนแรง แพทย์มักรักษาแบบครอบคลุมทั้งสองโรคไปพร้อมกัน:
  → Ceftriaxone (ฉีด) + Doxycycline (กิน 7 วัน)

ปรึกษาด้านยา หรือเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาคุณภาพ หากคุณมีอาการสงสัยและต้องการเริ่มการดูแลอย่างถูกต้อง

สิ่งที่ไม่ควรทำ

• 🚫 เดาสุ่มว่าเป็นโรคไหนแล้วซื้อยากินเอง
• 🚫 ใช้ยาครั้งเดียวโดยไม่ดูผลลัพธ์
• 🚫 ไม่รักษาคู่นอน → เสี่ยงติดเชื้อซ้ำ
• 🚫 มองข้ามอาการแม้จะเล็กน้อย เพราะ “อาจเป็นหนองในเทียม”

อ่านเพิ่มเติม:[ภาวะแทรกซ้อนจากหนองในที่ไม่ได้รักษา: เสี่ยงถึงขั้นมีลูกยากหรือไม่?]

ข้อมูลอ้างอิง (References):

1. CDC. Gonorrhea vs. Non-Gonococcal Urethritis. cdc.gov
2. WHO. STI diagnosis and differentiation guidelines. who.int
3. Mayo Clinic. Chlamydia and gonorrhea: similarities and differences. mayoclinic.org

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com