โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนในข้อต่อเสื่อมสภาพ ซึ่งส่งผลให้กระดูกเสียดสีกันและเกิดอาการปวด บวม และข้อฝืด โดยมักพบในข้อที่ใช้งานหนัก เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก และกระดูกสันหลัง
สาเหตุของโรคข้อเสื่อม
- อายุ: การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนเพิ่มขึ้นตามอายุ.
- น้ำหนักตัว: น้ำหนักที่มากเกินไปเพิ่มแรงกดดันต่อข้อต่อ.
- การใช้งานหนัก: การใช้งานข้อต่อซ้ำ ๆ หรือหนักเกินไป.
- พันธุกรรม: มีความเสี่ยงหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้.
อาการของโรคข้อเสื่อม
- ปวดข้อเมื่อเคลื่อนไหว.
- ข้อบวมและฝืด โดยเฉพาะหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน.
- ได้ยินเสียงกระดูกเสียดสีกันเมื่อขยับข้อ

แนวทางการรักษาโรคข้อเสื่อม
1. ไม่ใช้ยา
1.1 ลดน้ำหนัก
การ ลดน้ำหนัก มีผลสำคัญอย่างมากต่อการ ชะลอความเสื่อมของข้อ และ บรรเทาอาการปวด ในผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อม โดยเฉพาะที่ ข้อเข่าและข้อสะโพก ซึ่งต้องรับน้ำหนักตัวเป็นประจำทุกวันครับ
ลดน้ำหนัก = ลดแรงกดที่ “ข้อ”
กลไกที่อธิบายง่าย ๆ:
- ทุก ๆ 1 กิโลกรัมที่คุณลดได้ จะช่วยลดแรงกดบนข้อเข่า มากถึง 4 กิโลกรัม ขณะเดิน เช่น หากลดน้ำหนักได้ 5 กก. → ลดแรงกดที่ข้อเข่าได้ ~20 กก.
- เมื่อแรงกดลดลง:
- การสึกหรอของกระดูกอ่อนในข้อก็ลดลง
- การอักเสบ ในข้อจะน้อยลง
- อาการ ปวด บวม และฝืดข้อลดลง
(การศึกษาจาก Arthritis Foundation และงานวิจัยใน Osteoarthritis Cartilage Journal พบว่า ผู้ที่ลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 10% ของน้ำหนักตัว → มี อาการปวดข้อเข่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ)
1.2 ออกกำลังกายแบบ Low-impact (เดินในน้ำ, ปั่นจักรยาน)
การ ออกกำลังกายแบบ Low-impact (แรงกระแทกต่ำ) ถือเป็นหนึ่งในแนวทางที่แพทย์และนักกายภาพบำบัดแนะนำมากที่สุดสำหรับผู้ที่มี โรคข้อเสื่อม เพราะช่วยลดอาการปวด บำรุงข้อ และเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหว โดยไม่ทำให้ข้อถูกใช้งานหนักเกินไป
1.3 กายภาพบำบัด
กายภาพบำบัด (Physical therapy) เป็นกระบวนการดูแลและฟื้นฟูการทำงานของข้อต่อและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในผู้ที่มี โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ซึ่งช่วยทั้งในด้าน ลดอาการปวด และ ปรับสมดุลการใช้งานข้อให้เหมาะสม ลดการเสื่อมซ้ำ
1.4 ใช้อุปกรณ์พยุงข้อ เช่น สนับเข่า
อุปกรณ์พยุงข้อ เช่น สนับเข่า (knee support), เฝือกอ่อนข้อเท้า, ไม้เท้า, หรือ อุปกรณ์พยุงหลังสามารถช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยโรคข้อเสื่อม ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ร้านขายยาที่ได้มาตรฐานในชุมชน อุปกรณ์พยุงข้อหลากหลายแบบ ให้เลือกตามความต้องการ เช่น:
- สนับเข่าแบบยางยืด / มีโครงเสริม
- ไม้เท้า 3 ขา / 4 ขา สำหรับพยุงเดิน
- เฝือกพยุงข้อเท้า / สนับข้อมือ
- เบาะรองนั่งกันกดทับ (กรณีนั่งนาน)
- ที่รัดเอวพยุงหลัง สำหรับผู้มีอาการปวดหลังร่วม
พร้อม คำแนะนำจากเภสัชกร เพื่อให้คุณเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับร่างกายและอาการของคุณที่สุด

2. ใช้ยา
- พาราเซตามอล (Paracetamol)
- ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Celecoxib, Etoricoxib
- ยาทาภายนอก (เช่น ยาชา, diclofenac gel)
- ฉีดสารหล่อลื่นข้อ (hyaluronic acid)
- ฉีดสเตียรอยด์เฉพาะข้อ (ในบางราย)
3. การผ่าตัด
- ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม (Total Knee Replacement) กรณีรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น
โรคข้อเสื่อม ถึงแม้ว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ลดลง แต่ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ตามคำแนะนำด้านบน และหมั่นสำรวจตัวเองว่า มีการปวดหรือเจ็บข้อหรือไม่ เพื่อให้ได้รับการรักษาและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– Mayo Clinic – Osteoarthritis– ข้อมูลครอบคลุมเรื่องสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการรักษาโรคข้อเสื่อม
– Arthritis Foundation – Weight Loss and Osteoarthritis – ให้ข้อมูลเชิงวิชาการและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านข้อ
– CDC – Osteoarthritis – แนวทางการดูแลผู้ป่วยข้อเสื่อมจากหน่วยงานสุขภาพของสหรัฐฯ
– Pobpad.com – โรคข้อเสื่อม– อธิบายอาการ สาเหตุ การดูแลรักษาในบริบทภาษาไทย
– CDC – Weight and Joint Health – อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักตัวกับแรงกดต่อข้อ และแนวทางลดน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคข้อเสื่อม
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM