แผลเริมควรล้างด้วยน้ำอะไร? น้ำเกลือ น้ำเปล่า หรือแอลกอฮอล์?

ทำไมต้องใส่ใจการล้างแผลเริม?

แผลเริมจากเชื้อไวรัส HSV อาจดูเหมือนแผลเล็ก ๆ ที่หายได้เอง แต่หากดูแลไม่ดี เช่น ล้างผิดวิธี ปล่อยแผลอับชื้น หรือใช้สารระคายเคือง อาจทำให้แผลอักเสบ ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ หรือหายช้ากว่าปกติได้

ล้างแผลเริมด้วยอะไร “ดีที่สุด”?

น้ำเกลือปราศจากเชื้อ (Normal Saline 0.9%)
เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะ:

  • อ่อนโยนต่อผิว
  • ไม่ระคายเคือง
  • ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
  • หาซื้อง่ายที่ร้านขายยา

วิธีใช้: เทน้ำเกลือลงบนสำลีหรือก้านพันสำลี เช็ดเบา ๆ ที่แผล วันละ 2–3 ครั้ง

น้ำเปล่าใช้ล้างได้ไหม?

✅ ใช้ได้ หากเป็นน้ำสะอาดที่ต้มสุกแล้วและเย็นแล้ว

  • ห้ามใช้น้ำก๊อกโดยตรง หากไม่มั่นใจในความสะอาด
  • เหมาะกับกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อไม่มีน้ำเกลือ

ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลเริมได้ไหม?

🚫 ไม่แนะนำอย่างยิ่ง

  • แอลกอฮอล์จะทำให้แผลแสบมากขึ้น
  • อาจทำให้แผลแห้งเกินไปและชะลอการฟื้นตัว
  • เสี่ยงทำให้เกิดแผลไหม้ผิวหนังและเพิ่มการอักเสบ

แล้วน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างเบตาดีน (Povidone-iodine) ล่ะ?

ใช้ได้เฉพาะในบางกรณี และต้องเจือจาง

วิธีล้างแผลเริมที่ถูกต้อง

  1. ล้างมือให้สะอาด
  2. ใช้น้ำเกลือหรือสำลีสะอาดเช็ดเบา ๆ
  3. ปล่อยแผลให้แห้งเอง หรือซับเบา ๆ ด้วยผ้าสะอาด
  4. ทายาต้านไวรัสเฉพาะจุด (เช่น Acyclovir cream)
  5. หลีกเลี่ยงการปิดแผลตลอดเวลา ให้แผลสัมผัสอากาศบางช่วง

สิ่งที่ไม่ควรทำ

  • แกะแผลหรือสะเก็ด
  • ใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล
  • ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อแรง ๆ โดยไม่เจือจาง
  • ล้างบ่อยเกินไปจนผิวบริเวณนั้นแห้งระคายเคือง

อ่านเพิ่มเติม:[มีเริมแล้วสามารถรับวัคซีนได้ไหม? วัคซีนกระตุ้นให้เริมกำเริบหรือไม่?]


ข้อมูลอ้างอิง (References):

  1. Mayo Clinic. Herpes sore care and cleaning. mayoclinic.org
  2. NHS. Cleaning cold sores and wound hygiene. nhs.uk
  3. CDC. HSV management and lesion care. cdc.gov

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี