ยา Captopril (แคปโตพริล) – ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

ยาแคปโตพริล (Captopril) จัดอยู่ในกลุ่ม Angiotensin-converting enzyme/ACE inhibitor (กลุ่มยาลดความดันโลหิต/ ยาลดความดัน ยาลดความดันเลือดสูง ชนิดต้านการทำงานของเอนไซม์ ACE ที่ทำให้หลอดเลือดตีบหดตัว) วงการแพทย์นำมาใช้บำบัดรักษาอาการโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจล้มเหลว ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ.2518) โดยบริษัทยาสควิบบ์ (Squibb)

ข้อบ่งใช้

  • สำหรับบำบัดรักษาโรคความดันโลหิตสูงทั้งใน ผู้ใหญ่ เด็ก และผู้สูงอายุ
  • รักษาภาวะหัวใจล้มเหลว
  • รักษาอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด
  • รักษาโรคไตในผู้ป่วยเบาหวาน

กลไกการออกฤทธิ์

ยาแคปโตพริลมีกลไกการออกฤทธ์ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้ร่างกายเปลี่ยนสาร Angiotensin I ไปเป็น Angiotensin II (Angiotensin: สารที่ทำให้หลอดเลือดตีบหดตัว) ทำให้การหลั่งฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (Aldosterone: ฮอร์โมนออกฤทธ์ที่ไต เพื่อควบคุมปริมาณเกลือแร่โซเดียมและโพแทสเซียม เพื่อช่วยคงความดันโลหิตให้ปกติ) ลดลง และกระตุ้นให้ปริมาณการคั่งของเกลือโซเดียมและน้ำในร่างกายลดลงติดตามมา จึงทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลง พร้อมกับส่งผลดีต่อภาวะหัวใจล้มเหลวอีกทางหนึ่ง

รูปแบบของยา

ยาแคปโตพริลจัดจำหน่ายในรูปแบบยาเม็ดขนาดความแรง 12.5 และ 25 มิลลิกรัม/เม็ด

ปริมาณการใช้ยา Captopril

ความดันโลหิตสูง

  • เด็กแรกเกิดและเด็กทารก เริ่มให้ยา 0.15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม และให้ยาสูงสุดไม่เกิน 6 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2-3 ครั้ง/วัน ตามการตอบสนองของระดับความดันโลหิต
  • เด็กและวัยรุ่น เริ่มจากรับประทานยา 0.3 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม และให้ยาสูงสุดไม่เกิน 6 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2-3 ครั้ง/วัน ตามการตอบสนองของระดับความดันโลหิต
  • ผู้ใหญ่ เริ่มจากรับประทานยา 12.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง 1 ชั่วโมงก่อนอาหาร สามารถปรับปริมาณยาได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ จากนั้น รับประทานยาอย่างต่อเนื่องที่ปริมาณ 25-50 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง/วัน
  • ผู้สูงอายุ รับประทานยา 6.25 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

โรคไตจากเบาหวาน

  • ผู้ใหญ่ ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 รับประทานยา 75-100 มิลลิกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทานเป็นหลายครั้งตามเหมาะสม

โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย

  • ผู้ใหญ่ อาจเริ่มใช้ยาหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย 3-16 วัน โดยเริ่มจากรับประทานยาวันละ 6.25 มิลลิกรัม ตามด้วยยาปริมาณ 12.5 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน ติดต่อกัน 2 วัน แล้วอาจเพิ่มเป็น 25 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง จากนั้น ให้ยารักษาในปริมาณคงที่ 75-150 มิลลิกรัม โดยแบ่งเป็น 2-3 ครั้ง/วัน

ภาวะหัวใจล้มเหลว

  • เด็ก รับประทานยา 0.25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม แล้วอาจเพิ่มเป็น 2.5 หรือ 3.5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม โดยแบ่งรับประทาน 3 ครั้ง/วัน
  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา 6.25-12.5 มิลลิกรัม วันละ 2-3 ครั้ง จากนั้น ให้ยารักษาในปริมาณคงที่ 25 มิลลิกรัม วันละ 2-3 ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Captopril

ผลข้างเคียงที่มักพบได้ทั่วไปจากการใช้ยา Captopril ได้แก่

  1. ไอแห้ง
  2. มีอาการชา แสบร้อนตามมือและเท้า
  3. รู้สึกร้อนวูบวาบ
  4. มีผดผื่นขึ้นเล็กน้อย
  5. สูญเสียการรับรู้รสอาหาร

การใช้ยา Captopril อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้ยาได้ เช่น ปวดท้องรุนแรง หายใจลำบาก เป็นลมพิษ มีอาการบวมที่ใบหน้า ปาก ลิ้น และคอ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาและรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังกล่าว


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– haamor.com
– เว็บพบแพทย์
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM


แชร์

ยังไม่มีบัญชี