โรคแผลริมอ่อน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดได้ทั้งชายและหญิง

โรคแผลริมอ่อน (Chancroid) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ Haemophilus Ducreyi ซึ่งทำให้เกิดแผลเปื่อยบริเวณอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง ซึ่งอาจมีเลือดหรือของเหลวไหลออกมาจากแผล ทำให้สามารถแพร่เชื้อไปยังคู่นอนระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ทางปาก รูทวาร หรือช่องคลอดได้

อาการของแผลริมอ่อน

หลังจากได้รับเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-7 วัน จะเกิดเป็นตุ่มนูนแดงบริเวณอวัยวะเพศ และค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นแผลหนอง และอาจแตกออกเมื่อถูกเสียดสี มีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณแผล ผู้ที่รักษาโรคไม่หายขาดเกือบครึ่งมักมีอาการบวมของต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบข้างเดียวหรืออาจเป็นทั้ง 2 ข้าง
อาการของแผลริมอ่อนในผู้ชายและผู้หญิงอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ในผู้ชายมักจะสังเกตเห็นตุ่มแดงขนาดเล็กที่อวัยวะเพศไม่กี่ตุ่ม โดยเฉพาะบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาตและถุงอัณฑะ ก่อนจะกลายเป็นแผลเปิดภายใน 1-2 วัน มีอาการเจ็บหรือปวดมาก ส่วนใหญ่มีแผลเพียงจุดเดียว

ในขณะที่ผู้หญิงจะเกิดตุ่มแดงมากกว่าผู้ชาย พบได้บ่อยบริเวณแคมเล็กหรือด้านนอกของอวัยวะเพศ ต้นขา ขาหนีบ และปากมดลูก มีอาการเจ็บปวดน้อยกว่า หลังจากตุ่มแดงหายไปจะเริ่มกลายเป็นแผลเช่นเดียวกัน แต่จำนวนแผลมักมีมากกว่า 4 แผลขึ้นไป ทั้งนี้ ผู้หญิงที่ติดเชื้อบางรายอาจไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ แต่สามารถแพร่เชื้อโรคแก่ผู้อื่นได้ จึงทำให้ผู้หญิงมักสังเกตอาการได้ค่อนข้างยากกว่าผู้ชาย เนื่องจากลักษณะโรคมีความคล้ายคลึงกับโรคซิฟิลิสหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น

ลักษณะและอาการอื่น ๆ ที่มักพบร่วมกันในผู้ชายและผู้หญิง เช่น

  • ขนาดของแผลมีตั้งแต่ ⅛ – 2 นิ้ว (3 มิลลิเมตร-5 เซนติเมตร)
  • บริเวณแผลมีอาการปวดมาก
  • ตำแหน่งของแผลอาจเกิดได้ทั่วบริเวณอวัยวะเพศ
  • ลักษณะกลางแผลค่อนข้างนิ่ม มีความนูน ขอบแผลชัดเจน มีตั้งแต่สีเหลืองปนเทาไปจนถึงสีเทา
  • เมื่อสัมผัสหรือเสียดสีอาจทำให้เลือดออกที่แผลได้ง่าย
  • ปวดในขณะปัสสาวะ อุจจาระ หรือมีเพศสัมพันธ์
  • ในผู้หญิง อาจมีตกขาวมากและกลิ่นรุนแรง
  • ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโตจนกลายเป็นแผลหนอง และอาจทำให้เกิดฝีขนาดใหญ่

สาเหตุของแผลริมอ่อน

การติดเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus Ducreyi เกิดจากการสัมผัสโดนของเหลวจากแผลโดยตรง ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง เช่น ทางผิวหนังที่เกิดบาดแผลหรือมือที่มีเชื้อไปสัมผัสโดนดวงตา รวมถึงการสัมผัสถูกเชื้อในขณะมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ทั้งการร่วมเพศทางปาก ทางทวารหนัก หรือการมีเพศสัมพันธ์แบบชายหญิงโดยปกติ ส่วนระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ในช่วง 1 วัน-2 สัปดาห์ แต่เฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 5-7 วัน จึงเริ่มพัฒนาอาการให้เห็นชัดตามมา

เชื้อชนิดนี้มักระบาดมากในประเทศแถบแอฟริกา เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ หรือถิ่นที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานไม่สะอาดเพียงพอ จึงอาจทำให้ได้รับเชื้อในระหว่างที่พักอาศัยหรือท่องเที่ยวในพื้นที่เหล่านี้

แผลริมอ่อนมีลักษณะคล้ายโรคอะไรบ้าง ?

  • แผลริมอ่อนจะมีลักษณะเหมือนกับแผลจากโรคอื่นๆได้คือ
  • เริม ลักษณะจะเป็นตุ่มเล็กๆหลายๆตุ่ม มีลักษณะเจ็บ
  • ซิฟิลิส ลักษณะแผลของซิฟิลิสจะขอบนูนแข็ง ไม่เจ็บ
  • ฝีมะม่วง ลักษณะจะมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต อาจเกิดข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง

การรักษาแผลริมอ่อน

แผลริมอ่อน รักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ยาซิโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) ยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) ยาอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและบรรเทาอาการให้ดีขึ้นภายใน 7 วัน เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและถูกประเภท ยาจะช่วยให้ผู้ป่วยหายได้ไวขึ้นและลดรอยแผลเป็น ในกรณีที่ต่อมน้ำเหลืองบวมจนมีขนาดใหญ่หรือเกิดฝีภายในต่อมน้ำเหลือง ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด เพื่อระบายเอาหนองหรือฝีออก และลดโอกาสปวดบวมของแผล

การป้องกันแผลริมอ่อน

  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลที่อวัยวะเพศ
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรค
  • ควรสวมถุงยางป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • หากเป็นแผลที่อวัยวะเพศควรงดการมีเพศสัมพันธ์
  • รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ



แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– เว็บพบแพทย์
– กรมควบคุมโรค
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี