คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่สามารถแตกแขนงแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้อีกมากมาย หลายชนิดของฮอร์โมนในร่างกายเราที่ชื่อว่า สเตียรอยด์ฮอร์โมน ก็จัดอยู่ในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เช่นเดียวกัน
คอร์ติโคสเตียรอยด์สามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด ยาน้ำ ครีมทาผิวหนัง ยาหยอดตา ยาหยอดหู ยาฉีด หรือยาให้ทางหลอดเลือด เป็นต้น โดยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่ใช้บ่อยได้แก่
- Cortisone
- Hydrocortisone
- Sterapred (Prednisone)
- Medrol (Methylprednisolone)
- Orapred (Prednisolone)
ข้อบ่งใช้และสรรพคุณดังนี้
- รักษาอาการสมองบวมจากเนื้องอกสมอง (Brain tumors)
- รักษาอาการอักเสบและอาการแพ้ของผิวหนัง
- รักษาและบรรเทาอาการปวดหรืออาการอักเสบของข้อกระดูก
- บรรเทาอาการโรคหืด และอาการแพ้ในระบบทางเดินหายใจ
- บรรเทาและรักษาอาการอักเสบของระบบขับถ่าย เช่น ริดสีดวงทวาร
- รักษาและป้องกันภาวะเกลือโซเดียมในร่างกายมีมากผิดปกติ (Hypernatremia)
- รักษาอาการบวม ที่ไม่ใช่เกิดจากบวมน้ำ
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์มีกลไกการออกฤทธิ์
อาจแบ่งกลไกการออกฤทธิ์ตามการบริหารยาของคอร์ติโคสเตียรอยด์ได้ดังนี้
- ยาใช้เฉพาะที่: ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการรวมตัวของเม็ดเลือดขาวในบริเวณที่มีการอัก เสบของเนื้อเยื่อ จึงป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อในบริเวณที่อักเสบดังกล่าว
- ยาสำหรับสูดพ่น: ออกฤทธิ์โดยบรรเทาและลดการอักเสบของหลอดลม ทำให้หลอด ลมเปิดกว้าง เพื่อให้อากาศเข้าออกได้สะดวก อีกทั้งลดปริมาณการสร้างเมือกหรือสารคัดหลั่งที่คอยอุดกั้นตามหลอดลมอีกด้วย
- ยารับประทาน: หลังดูดซึมเข้าร่างกาย ตัวยาจะออกฤทธิ์ที่ตัวรับ (Receptors) ของเนื้อเยื่อ ป้องกันมิให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปทำลายบริเวณเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบ อีกทั้งยังออกฤทธิ์กดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย จึงทำให้อาการโรคทุเลาลง
- ยาฉีด: คล้ายกับชนิดรับประทาน แต่ออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าคือทันที
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายดังนี้
- ยาเม็ด ขนาดความแรง 0.5, 2.5, 5, และ 10 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาแคปซูล ขนาดความแรง 5 มิลลิกรัม/แคปซูล
- ยาครีม ขนาดความเข้มข้น 0.1%, 0.25%, 0.5%
- ยาหยอดตา ชนิดความเข้มข้น 0.12%, 1%
- ยาหยอดตา ชนิดความเข้มข้น 0.5% โดยผสมรวมกับยาปฏิชีวนะ
- ยาพ่นคอ ขนาดความเข้มข้น 100 และ 200 ไมโครกรัม/โด๊ส (Dose, ปริมาณยาแต่ละครั้งของการใช้ยา)
- ยาสูดพ่นเข้าจมูก ขนาดความแรง 0.5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร และ 1 มิลลิกรัม/2 มิลลิลิตร
- ยาสเปรย์พ่นจมูก ขนาดความเข้มข้น 64, 80, และ 160 ไมโครกรัม/โด๊ส
- ยาฉีด ขนาดความแรง 10 และ 40 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
- โลชั่นทาผิว ขนาดความเข้มข้น 0.1%
ปริมาณการใช้ยา
ด้วยยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์มีหลากหลายรายการ ขนาดรับประทานจึงขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ โดยต้องอาศัยข้อมูลประจำตัวของตัวผู้ป่วย รวมกับเลือกใช้ยาให้ตรงตามอาการโรค และมีความปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นการรับประทานจึงต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ผลข้างเคียงจาการใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์สามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- เกิดแผลในช่องทางเดินอาหาร (เช่น แผลในกระเพาะอาหาร)
- เกิดภาวะของกระดูกบางลง (โรคกระดูกพรุน)
- เกิดภาวะซึมเศร้า
- มีไข้
- กระตุ้นการชัก
- กดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย
- ปวดศีรษะ
- เจ็บคอ
- คัดจมูก
- ปวดหลัง
- อาเจียน
โดยหากเป็นยาใช้เฉพาะที่ เช่น ยาหยอดตา การใช้เป็นเวลานาน สามารถกระตุ้นให้เกิด
- ต้อกระจก
- ต้อหิน
และหากเป็นยาชนิดทา การใช้เป็นเวลานานสามารถเกิด
- ภาวะผิวบาง
- ผิวมีสีจาง และด่างขึ้น
การเก็บยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์
- เก็บยาที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– haamor.com
– hd.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM