ยาคุมกำเนิด ไดแอน-35 (Diane-35) วิธีการใช้ ข้อบ่งบอก และกลไกการออกฤทธิ์

สาระสำคัญ

  • ไดแอน-35 เป็นยาคุมกำเนิดที่ขึ้นทะเบียนสำหรับรักษาภาวะต่างๆ ของผิวหนังเนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ เช่น สิว ผมมันมาก สามารถคุมกำเนิดได้
  • ไดแอน-35 เป็นยาคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน ประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด คือ ไซโปรเทอโรน อะซีเตท 2 มก. (cyproterone acetate 2 mg) ซึ่งเป็นโปรเจสเตอโรนชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย) และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.035 มก. (ethynylestradiol:EE 0.035 mg ซึ่งเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดหนึ่ง) มีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่
  • ใน 1 แผง มีจำนวน 21 เม็ด ควรรับประทานติดต่อกันทุกวันในช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากหมดแผงต้องหยุดยา 7 วัน แล้วรับประทานแผงใหม่ต่อทันที

ตัวยาสำคัญ

ไซโปรเทอโรน อะซีเตท 2 มก. (cyproterone acetate 2 mg) และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.035 มก. (ethinylestradiol:EE 0.035 mg)

ข้อมูลทั่วไป

ไดแอน-35 ประกอบด้วยไซโปรเทอโรน อะซีเตท 2 มก. (cyproterone acetate 2 mg) และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.035 มก. (ethinylestradiol : EE 0.035 mg) ยับยั้งฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชายที่สร้างขึ้นจากรังไข่และต่อมหวกไต ใช้รักษาอาการซึ่งเกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติในผู้หญิง เช่น สิวการมีขนเจริญมากกว่าปกติ พร้อมทั้งคุมกำเนิดได้

กลไกการออกฤทธิ์

ไดแอน-35 มีไซโปรเทอโรน อะซีเตท เป็นส่วนประกอบ ออกฤทธิ์ยับยั้งของฮอร์โมนเพศชายที่สร้งขึ้นจากรังไข่และต่อมหมวกไต ดังนั้นจึงใช้ไดแอน-35 รักษาสิว ขนดก ทำให้ต่อมน้ำมันทำงานลดลงจึงช่วยลดการเกิดสิวและอาการหน้ามันได้ นอกจากนี้ ไดแอน-35 ยังช่วยยับยั้งการตกไข่ จึงมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิด

รูปแบบของยา

ไดแอน-35 เป็นยาเม็ดรับประทาน ประกอบด้วยไซโปรเทอโรน อะซีเตท 2 มก. (cyproterone acetate 2 mg) และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.035 มก. (ethynylestradiol : EE 0.035 mg)

ลักษณะของยา

ไดแอน-35 เม็ดรูปกลม นูน เคลือบน้ำตาล สีน้ำตาลอ่อน เรียบ 2 ด้าน จำนวน 21 เม็ด

วิธีการใช้ และขนาดยาที่แนะนำ

เริ่มรับประทานยาเม็ดเเรกของวันแรกที่ประจำเดือนมา ตามลูกศรจนครบ 21 เม็ด แล้วหยุดยา 7 วัน ระหว่างที่หยุดยา 7 วัน (ช่วงปลอดฮอร์โมน) เลือดประจำเดือนจะมา เมื่อหยุดครบ 7 วันแล้วให้เริ่มยาแผงใหม่ทันที แม้เลือดประจำเดือนจะยังไม่หยุด

หากลืมรับประทานยา

ยาคุมกำเนิด ไดแอน-35 เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด

  • กรณีลืมทานเม็ดยาที่มีฮอร์โมน 1 เม็ด: ให้ทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ (หมายความว่าในวันนั้นจะกินยารวมเป็น 2 เม็ด) โดยไม่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
  • กรณีลืมทานเม็ดยาที่มีฮอร์โมน 2 เม็ดขึ้นไป: ให้ทานเม็ดสุดท้ายที่ลืมทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ (หมายความว่าในวันนั้นจะกินยารวมเป็น 2 เม็ด) จนกว่าจะกินยาฮอร์โมนครบ 7 วัน
  • ถ้าเม็ดที่ลืมเป็น 7 เม็ดแรกของแผง หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
  • ถ้าเม็ดที่ลืมเป็น 7 เม็ดสุดท้ายของแผง เมื่อทานแผงนั้นหมดให้เริ่มแผงใหม่เป็นเม็ดฮอร์โมนทันที โดยไม่ต้องเว้น 7 เม็ด

หากท้องเสีย หรืออาเจียน

ถ้าอาเจียนภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังทานยา ให้ทานใหม่อีก 1 เม็ดทันทีที่สามารถทานได้

การใช้ยาในสตรีมีครรภ์ / กำลังให้นมบุตร

ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร

ผลข้างเคียง

  • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เจ็บหน้าอกได้ ซึ่งมักพบได้ในบางคนที่เพิ่งเริ่มทานยา 2-3 แผงแรก ให้แก้ปัญหาโดยทานยาหลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน
  • เจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการใช้ยา ซึ่งอาการนี้จะหายเองในระยะต่อมา
  • เลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบได้ในระยะแรก หรือในผู้ที่ลืมทานยาบ่อยๆ ดังนั้นควรทานอย่างสม่ำเสมอ

ข้อแนะนำในการใช้

เริ่มรับประทานเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือหากเริ่มทานเม็ดแรกในวันอื่น จำเป็นต้องมีการคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วัน (เพราะการควบคุมระดับฮอร์โมนจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์) จากนั้นรับประทานเม็ดต่อไปในเวลาเดียวกันของทุกวันจนหมดแผง เมื่อรับประทานหมดแผงให้เว้น 7 วัน จึงเริ่มรับประทานแผงใหม่ โดยช่วง 7 วันที่หยุดทานยาจะมีเลือดออกคล้ายประจำเดือน

ข้อควรระวัง / ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • ควรตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอปีละ 1 ครั้ง โดยการตรวจร่างกายสามารถตรวจหลังจากเริ่มยาคุมได้
  • ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเอดส์หรือโรคทางเพศสัมพันธ์ได้

ข้อห้ามใช้

  • ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน,โรคหลอดเลือดสมองอุตตัน (Stroke)
  • หรือเสี่ยงต่อการมีปัญหาของระบบไหลเวียนโลหิตควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยานี้
  • มีประวัติเป็นมะเร็ง หรือคาดว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจน
  • โรคตับ
  • ตั้งครรภ์

อันตรกิริยากับยาอื่น

ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antibiotics)

วิธีการเก็บรักษา

เก็บยาที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และ เก็บให้พ้นมือเด็ก


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– HDmall.com
– หาหมอ.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่มีบัญชี