ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ถูกสังเคราะห์ขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1976 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ป้องกันและรักษาการติดเชื้อราทางผิวหนัง มีการนำยานี้มาใช้รักษาเชื้อรากับผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง หรือผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่อยู่ในช่วงการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด รูปแบบของยาที่มีวางขายตามร้านขายยาและสถานพยาบาล เช่น แชมพูขจัดรังแค ยาครีมทาผิวหนัง ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
ยานี้สามารถดูดซึมได้ดีในภาวะที่เป็นกรด จึงมีการแนะนำไม่ให้รับประทานยาพร้อมกับยาลดกรดด้วยทำให้การดูดซึมลดลง
ยาคีโตโคนาโซลถูกขับออกจากร่างกายทางน้ำดีและทางปัสสาวะ มีการทดสอบการใช้ยากับสัตว์ทดลองที่ตั้งครรภ์พบว่าก่อให้เกิดความพิการของตัวอ่อนในครรภ์ จึงห้ามใช้ยาคีโตโคนาโซลชนิดรับประทานในหญิงมีครรภ์ ด้วยอาจก่อให้เกิดความพิการต่อทารกหรืออาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาควรต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
ยาคีโตโคนาโซลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร
ยาคีโตโคนาโซล มีสรรพคุณใช้รักษาโรคเชื้อราทางผิวหนังเช่น กลาก (Tinea) เกลื้อน (Pityriasis versicolor) เชื้อราในช่องคลอด (Vaginal candidiasis)
ยาคีโตโคนาโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร
ยาคีโตโคนาโซล ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการสังเคราะห์สารอาหารในเชื้อรา พร้อมกับลดการลำเรียงสารอาหารที่ผนังเซลล์ของเชื้อรา จนทำให้เชื้อราขาดสารอาหารและหยุดการเจริญ เติบโตในที่สุด
ยาคีโตโคนาโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร
ยาคีโตโคนาโซล มีการจัดจำหน่ายในรูปแบบของยารับประทานที่เป็นยาเม็ด ยาครีมทาผิวหนัง และยาน้ำในรูปแบบของแชมพูสระผม
ยาคีโตโคนาโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร
ขนาดของยาคีโตโคนาโซล ที่รับประทานในผู้ใหญ่สำหรับการรักษาโรคเชื้อรามีขนาดสูง สุดไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรักษาต่อเนื่องไม่เกิน 14 วัน แต่ความเหมาะสมในการปรับขนาดรับประทานต้องให้แพทย์ผู้ทำการรักษาเท่านั้นเป็นผู้แนะนำและสั่งจ่ายการใช้ยากับผู้ป่วย
ส่วนยาครีมทาผิวหนัง และยาน้ำในรูปแบบแชมพูสระผม
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมทั้ง ยาคีโตโคนาโซล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
ประวัติการแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว ขึ้นผื่น คลื่นไส้มาก หรือ แน่นหายใจติดขัด
มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือ เกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อนแล้ว
หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านรกและเข้าสู่ทารกจนก่อผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร
หากลืมรับประทานยา รวมทั้ง ยาคีโตโคนาโซล สามารถรับประทานทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลารับประทานใกล้เคียงกับการกินยาในมื้อถัดไปไม่จำเป็นต้องใช้ยาเป็นสองเท่า
ยาคีโตโคนาโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร
ผลไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงของยาคีโตโคนาโซล คือ อาการทางผิวหนัง อาจก่อให้เกิดภาวะผื่นคัน และยาทา ยาแชมพู ยังอาจก่อการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยตรงได้ในรูปแบบยารับประทาน อาจทำให้รู้สึกไม่สบายในระบบทางเดินอาหารโดยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน สามารถก่อให้เกิดเพิ่มความดันในศีรษะ ส่งผลให้มีอาการ ปวดศีรษะ มึนงง/ วิงเวียน ตามมาได้
อนึ่ง
การใช้ยาคีโตโคนาโซลทุกรูปแบบ ถ้าซื้อยาใช้เอง และอาการไม่ดีขึ้น ในระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์หลังใช้ยา หรือ เมื่ออาการเลวลง ควรต้องพบแพทย์เสมอ เพราะการใช้ยาต่อเนื่อง นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจเกิดผลไม่พึงประสงค์จากยาได้
มีข้อควรระวังการใช้ยาคีโตโคนาโซลอย่างไร
ข้อควรระวังในการใช้ยาคีโตโคนาโซล คือ
- ระวังการใช้ยาในผู้ที่ป่วยที่เป็นโรคตับ
- ห้ามใช้ยาชนิดรับประทานในหญิงตั้งครรภ์
- ห้ามใช้ยากับผู้ที่แพ้ยานี้
- ควรปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ
ยาคีโตโคนาโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร
การรับประทานยาคีโตโคนาโซล ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สามารถทำให้เกิดอา การ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ และผื่นคัน ได้ การใช้ยาคีโตโคนาโซล ร่วมกับยารักษาอาการวิตกกัง วล สามารถทำให้ระดับของยาดังกล่าวอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานมากขึ้น และอาจนำไปสู่ภา วะ ง่วงซึม อ่อนล้า ยารักษาอาการวิตกกังวล ที่กล่าวถึง เช่น อัลปราโซแลม (Alprazolam) การใช้ยาคีโตโคนาโซล ร่วมกับยาลดกรด สามารถทำให้การดูดซึมของ ยาคีโตโคนาโซลต่ำลงและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา ยาลดกรดที่กล่าวถึง เช่น อลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminium hydroxide)
ควรเก็บรักษายาคีโตโคนาโซลอย่างไร
ยาคีโตโคนาโซลชนิดรับประทานให้เก็บที่อุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส (Celsius) ส่วนชนิดทาผิวหนังให้เก็บภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– haamor.com
– เว็บพบแพทย์
– HD Mall.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM