ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)  แนวทางการรักษา และป้องกัน

ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนในข้อเข่าเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และข้อฝืด โดยมักพบในผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้งานข้อเข่าหนักเป็นเวลานาน ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)

1.     อายุ: การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนเพิ่มขึ้นตามอายุ.

อายุมี บทบาทสำคัญมาก ต่อการเกิด ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) และถือเป็น ปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่ง เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระบวนการเสื่อมของข้อต่อก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

อายุมีผลอย่างไรต่อข้อเข่าเสื่อม?

1.1. กระดูกอ่อนเสื่อมตามอายุ

  • เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนที่หุ้มผิวข้อเริ่มบางลง
  • ความสามารถในการรองรับแรงกระแทกลดลง → เสียดสีกันมากขึ้น → ปวดเข่า

1.2. น้ำหล่อลื่นในข้อ (Synovial fluid) ลดลง

  • ของเหลวในข้อมีหน้าที่หล่อลื่นและลดแรงเสียดทาน โดยทั่วไปแล้วในร้านขายยาก็จะมีกลุ่มยาที่ช่วยเพิ่มน้ำในข้อ ได้แก่   กลูโคซามีน” (Glucosamine) ที่ช่วยลดอาการ โรคข้อเข่าเสื่อม
  • ผู้สูงอายุมีการผลิตน้ำในข้อ ลดลงตามวัย → ข้อฝืดและขยับได้ไม่ลื่นไหลเหมือนเดิม

1.3. กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอ่อนแรง

  • เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อโดยเฉพาะรอบเข่าจะ ฝ่อลีบและอ่อนแรง
  • ทำให้ข้อเข่ารับแรงโดยตรงมากขึ้น → เพิ่มการสึกหรอ

1.4. การใช้งานสะสมหลายปี

  • ข้อเข่ารับน้ำหนักตัวทุกวันมาตลอดชีวิต
  • ยิ่งใช้งานมาก เช่น เดินเยอะ ยืนเยอะ หรือเคยนั่งยอง ๆ บ่อย → ข้อเสื่อมได้ง่ายขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

สถิติที่น่าสนใจพบว่า

  • คนอายุ มากกว่า 60 ปี กว่า 40–60% มีอาการข้อเข่าเสื่อมในระดับใดระดับหนึ่ง
  • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีแนวโน้มเกิดข้อเสื่อมมากกว่าผู้ชาย (ฮอร์โมนเอสโตรเจนเกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อ)

2.     น้ำหนักตัว: น้ำหนักที่มากเกินไปเพิ่มแรงกดดันต่อข้อเข่า.

น้ำหนักตัวส่งผลต่อข้อเข่าอย่างไร?  น้ำหนักมาก = แรงกดที่ข้อเข่ามากขึ้น เวลาที่เราเดิน ทุก ๆ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักตัว จะลงน้ำหนักที่ข้อเข่าถึง 3–5 เท่า

เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น 5 กก. → แรงกดที่เข่าเพิ่มขึ้นถึง 15–25 กก. ทุกย่างก้าว
→ เร่งการเสื่อมของกระดูกอ่อนในข้อ

ไขมันสร้างสารอักเสบ

ไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ปล่อยสารเคมีอักเสบ (เช่น Cytokines)
→ ทำให้ ข้อเข่าอักเสบเรื้อรัง และเสื่อมเร็วขึ้น

เพิ่มความเสี่ยงอาการปวด

o   คนที่มีน้ำหนักตัวมากมักมี อาการปวดข้อรุนแรงกว่า แม้ระดับความเสื่อมเท่ากัน

 งานวิจัยยืนยัน

  • การลดน้ำหนัก 5–10% ของน้ำหนักตัว สามารถลดอาการปวดเข่า และ ชะลอการลุกลามของข้อเสื่อมได้จริง
  • การศึกษาจาก Arthritis Foundation พบว่า: “การลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม → ลดแรงกระแทกที่ข้อเข่า ~4 กิโลกรัมขณะเดิน”

3.     การใช้งานหนัก: การใช้งานข้อเข่าซ้ำ ๆ หรือการบาดเจ็บ.

หากใช้มากเกินไป หรือใช้งานผิดวิธี ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน จะส่งผลโดยตรงต่อการเกิดหรือเร่งให้เกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น

4.     พันธุกรรม: มีความเสี่ยงหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้.

แม้ว่าโรคข้อเข่าเสื่อมจะเกิดจาก “การเสื่อมสภาพตามวัย” เป็นหลัก แต่ พันธุกรรมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในคนที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงชัดเจน แต่เริ่มมีอาการข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่อายุน้อย หรือเป็นหลายข้อต่อพร้อมกัน

พันธุกรรมส่งผลต่อข้อเข่าเสื่อมอย่างไร?

กลไกอธิบาย
โครงสร้างข้อผิดปกติแต่กำเนิดเช่น ขาโก่งหรือขาแอ่น ทำให้ข้อเข่าถูกใช้งานผิดมุมตั้งแต่เด็ก
ยีนที่ควบคุมการสร้างกระดูกอ่อนบางคนอาจมียีนที่ทำให้กระดูกอ่อนบางหรือเสื่อมเร็ว
ความผิดปกติของคอลลาเจนคอลลาเจนเป็นโครงสร้างหลักของกระดูกอ่อน หากร่างกายสร้างผิดปกติ จะทำให้ข้อเสื่อมง่ายกว่าคนทั่วไป
ประวัติครอบครัวเป็นข้อเสื่อมหากพ่อแม่หรือพี่น้องมีโรคข้อเข่าเสื่อม → คุณมีโอกาสมากกว่าคนทั่วไป

งานวิจัยสนับสนุน:

  • การศึกษาหลายฉบับพบว่า มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมในผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อมถึง 40–65%
  • ยีนที่เกี่ยวข้อง เช่น GDF5, COL2A1, และยีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูก

โรคข้อเข่าเสื่อมชนิด “ถ่ายทอดในครอบครัว” มักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นหลายข้อพร้อมกัน

  • พันธุกรรม = เพิ่มความเสี่ยง ไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นแน่นอน
  • หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นข้อเข่าเสื่อม ควร ดูแลข้อเข่าตั้งแต่อายุยังน้อย
    เช่น ลดน้ำหนัก, หลีกเลี่ยงนั่งยอง, บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า, ใช้รองเท้ารองรับแรงกระแทก

อาการ

  • ปวดข้อเมื่อเคลื่อนไหวหรือใช้งาน.
  • ข้อบวมและฝืด โดยเฉพาะหลังจากไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน.
  • ได้ยินเสียงกระดูกเสียดสีกันเมื่อขยับข้อ.
  • ข้อเข่าผิดรูปในกรณีที่รุนแรง.

การรักษา

  • การปรับพฤติกรรม: ลดน้ำหนักและหลีกเลี่ยงการใช้งานข้อเข่าหนัก.
  • ยา: เช่น ยาแก้ปวดหรือ NSAIDs. ใช้กลุ่มยา Celecoxib  หรือ  Etoricoxib  ซึ่งยาก็จะช่วยลดอาการปวด
  • กายภาพบำบัด: เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อ.
  • การผ่าตัด: เช่น การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในกรณีที่รุนแรง.

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– Mayo Clinic – Osteoarthritis Risk Factors – อธิบายว่าการเสื่อมของข้อเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างร่วมกับอายุที่เพิ่มขึ้น
– CDC – Osteoarthritis and Aging– ระบุว่าอายุเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเกิดโรคข้อเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่า
– CDC – Weight and Osteoarthritis – อธิบายว่า “น้ำหนัก” เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดและควบคุมอาการข้อเข่าเสื่อม
– Arthritis Foundation – How Weight Impacts Arthritis – ระบุว่าแม้การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลดีอย่างมากต่อข้อเข่า

เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี