ไข้ทับระดู เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ในผู้หญิงเกิดขึ้นช่วงระหว่างมีประจำเดือน เนื่องจากผู้หญิงร่างกายจะมีภาวะอ่อนแอในช่วงมีประจำเดือน ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ระดับฮอร์โมนภายในร่างกายแปรปรวน เป็นอาการที่ผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นได้เกิดขึ้นไดทั้งก่อนและหลังเป็นประจำเดือน
อาการของไข้ทับระดูที่สังเกตได้
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว ปวดตามข้อ
- ปวดท้อง
- ปวดหลัง

ไข้ทับระดู แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ไข้ทับระดูทั่วไป ลักษณะอาการของไข้ทับระดูทั่วไป จะมีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย รู้สึกไม่สบายตัว อาจมีอาการปวดร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดท้องน้อย เป็นต้น สามารถรักษาอาการเบื้องต้นด้วยวิธีการทานยาลดไข้ตามอาการ
ไข้ทับระดูแฝง ในผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะของโรคอื่น ๆ แอบแฝงมากับไข้ทับระดู ยกตัวอย่างเช่น ภาวะที่มีการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์เพศหญิงส่วนบน บริเวณมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ และเยื่อบุช่องท้องในอุ้งเชิงกราน เกิด “ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ” จะทำให้มีอาการป่วยลักษณะคล้ายไข้ทับระดู ลักษณะอาการของไข้ทับระดูแฝง จะมีอาการรุนแรงกว่าไข้ทับระดูทั่วไป มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดหลัง ในบางรายอาจมีประจำเดือนมากกว่าปกติ มีกลิ่น และมีตกขาวร่วมด้วย
สาเหตุที่ทำให้เกิดไข้ทับระดู
สาเหตุที่ทำให้เกิดไข้ทับระดู คือ ภูมิคุ้มกันในร่างกายของสาวๆ ในช่วงมีประจำเดือนต่ำลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อและสามารถเจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดไข้ทับระดูได้อีกด้วย เช่น ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงในช่วงมีประจำเดือน ซึ่งเกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายของสาวๆ มีความแปรปรวนอย่างมาก ทำให้ร่างกายเกิดการเสียสมดุลและมีอาการป่วยในช่วงที่มีประจำเดือนตามมา และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไข้ทับระดูก็คือ การรักษาความสะอาดในช่วงที่มีประจำเดือนไม่ดีพอ ซึ่งมีโอกาสที่มดลูกและปีดมดลูกจะเกิดการติดเชื้อได้มากกว่าช่วงปกติ ทั้งนี้การปล่อยให้ผ้าอนามัยอับชื้น หรือมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือน อาจส่งผลให้เกิดภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ส่วนบนของเพศหญิง หรือไม่ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เป็นโรคปีกมดลูกอักเสบ ซึ่งมีการติดเชื้อที่บริเวณมดลูก ปีกมดลูก และท่อนำไข่
วิธีการป้องกันร่างกายจากไข้ทับระดู
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารย่อยง่าย เช่น
- ละเว้นการสูบบุหรี่
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- ดูแลความสะอาดและสุขอนามันช่วงระหว่างมีประจำเดือน
- งดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจากปากมดลูกจะเปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สูง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลพญาไท
– โรงพยาบาลจุฬารัตน์
– โรงพยาบาลศิครินทร์
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM