ยานี้คือยาอะไร
ยานี้มีชื่อสามัญว่า naproxen (นาพรอกเซน) อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอร์รอยด์
ข้อบ่งใช้
- เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ โรคข้อเสื่อมกระดูกสันหลังอักเสบข้อยึดติด
- เพื่อรักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ในเด็ก (อายุ 2 ปีขึ้นไป)
- เพื่อบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อ
- เพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
- เพื่อบรรเทาโรคเกาต์เฉียบพลัน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา
ห้ามใช้ยานี้เมื่อไร
- เคยแพ้ยานี้หรือแพ้ส่วนประกอบในตำรับ
- มีอาการหอบหืดลมพิษ หรือโพรงจมูกอักเสบแบบ
- เฉียบพลันจากการแพ้ยากลุ่มแอสไพรินหรือกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอร์รอยด์
- เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
- มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือลำไส้หรือมีแผลทะลุ ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไตอย่างรุนแรง ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวชนิดรุนแรง
- สงสัยว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออก หรือเกล็ดเลือดผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ฮีโมฟีเลีย
- เป็นหญิงมีครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 6 เดือน
ข้อควรระวังเมื่อใช้ยานี้
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อแผลเลือดออกในทางเดินอาหาร เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคทางเดินอาหาร
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ,โรคไต, ความดันโลหิตสูง, ผู้สูงอายุ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ ยานี้
- หญิงมีครรภ์ควรระมัดระวังการใช้ยานี้ในการตั้งครรภ์เดือนที่ 1-6
- หญิงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้
- ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาบางชนิด เพราะอาจมีผลต่อการรักษาหรือเกิดอันตรายได้ เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอร์รอยด์ ยากลุ่มกันเลือดเป็นลิ่ม ยาต้านจุลชีพ กลุ่มควิโนโลน
วิธีใช้ยา
ขนาดและวิธีใช้
- ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น เพราะขนาดและระยะเวลาในการใช้ยานี้ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของโรค
ขนาดยาทั่วไป
- สำหรับรักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ โรคข้อเสื่อมกระดูกสันหลังอักเสบ ข้อยึดติด กินครั้งละ 1-2 เม็ด (250-500 มิลลิกรัม) วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า เย็น
- สำหรับรักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ในเด็ก (เด็กอายุ2 ปี ขึ้นไปและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี ) กินครั้งละ 5 มิลลิกรัมต่อน้าหนัก 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า เย็น
- สำหรับบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อ กระดูก และ ข้อต่อ อาการปวดประจำเดือน เริ่มต้นกิน 2 เม็ด (500มิลลิกรัม) ตามด้วย 1 เม็ด (250 มิลลิกรัม) ทุก 6-8 ชั่วโมง จนอาการทุเลา
- สำหรับบรรเทาโรคเกาต์เฉียบพลัน เริ่มต้นกิน 3 เม็ด (750 มิลลิกรัม) ตามด้วย 1 เม็ด (250 มิลลิกรัม) ทุก 8 ชั่วโมงจนอาการทุเลา
- กินยาพร้อมอาหาร นม หรือดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อลดการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร
ถ้ากินยานี้เกินขนาดที่แนะนำ ควรทำอย่างไร
- ให้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติที่รุนแรงเช่น เวียนหัว ง่วงซึม เจ็บปวดยอดอก ไม่สบายท้อง งุนงง สบสน การย่อยอาหารไม่ดี คลื่นไส อาเจียน ความดันโลหิตสูง ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
ข้อควรปฏิบัติระหว่างการใช้ยา
- แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ว่ากำลังใช้ยานี้หากต้องผ่าตัดหรือทำฟัน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ระมัดระวังการขับขี่ยานยนต์หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือทำงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง ในผู้ป่วยที่เคยมีอาการซึม อาการง่วง เวียนศรีษะเมื่อใช้ยานี้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยา
อาการที่ต้องหยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
- บวมที่ใบหน้า เปลือกตา ริมฝีปาก ลมพิษ
- หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
- ผื่นแดง ตุ่มพอง ผิวหนังหลุดลอก มีจ้ำตามผิวหนังหรือเลือดออกผิดปกติ
- ถ่ายดำคล้ายน้ำมันดิน ถ่ายเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือดหรือสีกาแฟ
- ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้มผิดปกติ อ่อนแรงหรือเหนื่อยผิดปกติ คลื่นไส อาเจียน ปวดท้องมาก
- บวมที่แขน ขา มือ ข้อเท้า
- มีปัญหาในการมองเห็น
- เวียนหัวมาก
- ซึมเศร้า
- มีเสียงในหู
อาการที่ไม่จำเป็นต้องหยุดยา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที
- ท้องเสีย ท้องผูก แสบร้อนยอดอก ปวดหัว ง่วงซึม
วิธีเก็บรักษายา
- เก็บยาไว้ในภาชนะบรรจุเดิมตามที่ได้รับมา
- แกะยาออกจากแผงเมื่อจะกินในแต่ละครั้งเท่านั้น
- เก็บยาในที่แห้ง อย่าให้โดนแสงโดยตรง โดยทั่วไปควรเก็บที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ไม่เก็บยาในที่ร้อนหรือชื้น เช่น ในรถ ห้องน้ำ ห้องครัว
- เก็บยาให้พ้นมือเด็ก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– เอกสารกำกับยา
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM