วิตามินซีทาน VS ฉีดเข้าร่างกาย แบบไหนดีกว่ากัน

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักถึงสรรพคุณของวิตามินซีก่อน

วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) คือ วิตามินชนิดละลายน้ำได้ แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเอง จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินซีจากแหล่งต่างๆ เช่น ในอาหารและอาหารเสริมต่างๆ มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และช่วยในการซ่อมแซมฟื้นฟูและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อด้วย ช่วยทำให้แผลสมานและหายเร็วขึ้น และช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย

วิตามินซีแบบฉีดกับวิตามินซีแบบทาน แบบไหนดีกว่ากัน

สำหรับการฉีดวิตามินซีเข้าร่างกาย หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อของการ “Drip วิตามิน” จะเป็นการนำวิตามินซีมาฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินซีแบบเต็ม ๆ ซึ่งหลังจากฉีดไป 1 – 2 เข็ม ผิวพรรณก็จะค่อย ๆ กลับมาผ่องใสอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลายคนเชื่อว่า การฉีดวิตามินซีนั้นเห็นผลไวกว่าการกินวิตามินซีปกติ

แต่อย่างไรก็ดี ข้อเสียของการฉีดวิตามินซีเข้าผิวนั้น เป็นเรื่องที่ต้องระวังเช่นเดียวกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว หากไม่พิจารณาเลือกคลินิกที่มีคุณภาพ ตลอดจนประสบการณ์ของแพทย์ให้ดี การฉีดวิตามินซีก็อาจเป็นอันตรายได้ เพราะผู้ที่รับการฉีดอาจเกิดอาการแพ้ ไปจนถึงอาการผื่นคัน ความดันต่ำ หรือในกรณีร้ายแรงก็อาจเกิดภาวะช็อก หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้

ไม่เพียงเท่านั้น หลายคนยังอาจเชื่อว่า ยิ่งฉีดวิตามินซีในปริมาณที่มากก็จะยิ่งขาวไว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การฉีดวิตามินซีในปริมาณสูงเกินกว่าความจำเป็น และอาจทำให้เกิดอาหารท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องร่วงหนักเนื่องจากร่างกายจะเข้ามาดูดซึมวิตามินซีเพียงอย่างเดียว และทำให้ดูดซึมสารอาหารอื่น ๆ ได้น้อยลง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข้อเสียของการฉีดวิตามินซีเข้าผิวที่ต้องระวังให้ดี

ปริมาณและรูปแบบของวิตามินซีแบบฉีดและแบบทาน

แบบฉีด

วิตามินซีรูปแบบสารละลายสำหรับฉีด วิตามินซีแบบฉีด จะมีขนาด 500 มิลลิกรัม ปริมาตรประมาณ 2 มิลลิลิตร การจะใช้วิตามินซีแบบฉีดควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และควรได้รับการแนะนำจากแพทย์ก่อนว่าเราควรฉีดไหม วิตามินซีแบบฉีดจะออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็วและร่างกายสามารถนำวิตามินซีไปใช้ได้ทันที ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงในการป้องกันหวัด และช่วงบำรุงซ่อมแซมผิว โดยที่ไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร

แบบทาน

วิตามินซีแบบอัดเม็ด
วิตามินซีแบบเม็ดจะมีขนาดตั้งแต่ 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ขนาดของวิตามินซีที่นิยมขายกันทั่วไป คือ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม และควรเลือกทานเป็นแบบ Buffered หรือ Sustained Release เพราะตัววิตามินซีจะค่อยๆละลายออกมาอย่างช้าๆ ทำให้สามารถดูดซึมได้นานขึ้น แบบนี้เม็ดยาจะมีขนาดใหญ่ ทำให้กลืนลำบาก

วิตามินซีแบบเม็ดอม
ปกติจะมีขนาด 25 – 500 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่กลืนยาเม็ดใหญ่ลำบากไม่ชอบกลืนแบบเป็นเม็ด แต่เนื่องจากวิตามินซีเป็นกรด ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ถ้าหากเราอมบ่อยๆ อาจทำให้ฟันกร่อนหรือฟันผุได้

วิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยว
จะมีขนาดประมาณ 30 มิลลิกรัม ส่วนมากจะทำมาให้เด็กทาน เพราะว่ามีรสหวานเด็กๆทานได้ง่าย แต่หากรับประทานในปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้ฟันผุได้ได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากวิตามินซีแบบเม็ดเคี้ยวมักจะมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เพื่อให้มีรสหวาน

วิตามินซีแบบเม็ดฟู่
วิตามินซีแบบเม็ดฟู้ในท้องตลาดจะมีขนาดประมาณ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม ก่อนรับประทานควรนำไปละลายในน้ำจนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดการแน่นท้องไม่สบายตัว แต่วิตามินแบบเม็ดฟู่ จะเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้หรือกลืนได้ลำบาก

วิตามินซีแบบแคปซูล
มีขนาด 500 มิลลิกรัม จะมีขนาดที่เล็กกว่าวิตามินซีแบบอัดเม็ด และมีให้เลือกทานได้ทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม ซึ่งทั้งสองแบบจะมีขนาดเล็กกลืนง่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาการกลืน

สรุป

การฉีดซีหรือการทานวิตามินซีให้ผลเหมือนกัน แต่การฉีดจะมีข้อดีในเรื่องของการดูดซึมที่รวดเร็วแน่นอน
แพทย์จะเลือกใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องของการดูดซึม คนที่ไม่สามารถกลืนกินยาได้ ส่วนการทานจะมีอันตรายน้อยกว่าการฉีดโดยตรง เพราะการฉีดเราไม่สามารถทราบได้ว่าได้รับตัวยาอะไรเข้ามาบ้างตามที่กล่าวไว้



แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– eucerin.co.th
– boomvitc
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่มีบัญชี