ยา Ethinyl estradiol (เอทินิล เอสตร้าไดออล)ข้อมูล ข้อบ่งใช้ และกลไกลการออกฤทธิ์
ยาเอทินิล เอสตร้าไดออล (Ethinyl estradiol หรือ Ethinyl oestradiol หรือ Ethynyl estra diol หรือ Ethynyl oestradiol) เป็นสารอนุพันธุ์ของฮอร์โมนเพศหญิงเอสตร้าไดออล (Estradiol) ซึ่งพบในมนุษย์ ทางคลินิกได้นำมาใช้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดซึ่งมักจะใช้ฮอร์โมนเพศหญิงชนิดอื่นร่วมอยู่ด้วย หากเป็นสูตรตำรับที่มีเฉพาะเอทินิล เอสตร้าไดออลเดี่ยวๆมักจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมนในเพศหญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน หรือนำมาช่วยบำบัดอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer)
ยา Cyproterone (ไซโปรเตอโรน) ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง
ไซโปรเตอโรน (Cyproterone) คือ สารสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างคล้ายยากลุ่มสเตียรอยด์ มีฤทธิ์ต่อต้านฮอร์โมนชื่อแอนโดรเจน(Androgen) ที่พบมากในเพศชายซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นการเจริญ เติบโตให้ร่างกายมีลักษณะของบุรุษเพศ ทางคลินิกพบว่าในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่มีแอนโดรเจนปริมาณมากเกินไปอาจเป็นเหตุให้มะเร็งต่อมลูกหมากเจริญขยายตัวมากขึ้น นอกจากนี้แอนโดรเจนยังกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศสูงขึ้นอีกด้วย
ยาคุมกำเนิด ไดแอน-35 (Diane-35) วิธีการใช้ ข้อบ่งบอก และกลไกการออกฤทธิ์
ไดแอน-35 เป็นยาคุมกำเนิดที่ขึ้นทะเบียนสำหรับรักษาภาวะต่างๆ ของผิวหนังเนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ เช่น สิว ผมมันมาก สามารถคุมกำเนิดได้
ไดแอน-35 เป็นยาคุมกำเนิดแบบผสมชนิดรับประทาน ประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด คือ ไซโปรเทอโรน อะซีเตท 2 มก. (cyproterone acetate 2 mg) ซึ่งเป็นโปรเจสเตอโรนชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย) และ เอธินิลเอสตราดิออล 0.035 มก. (ethynylestradiol:EE 0.035 mg ซึ่งเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดหนึ่ง) มีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่
ใน 1 แผง มีจำนวน 21 เม็ด ควรรับประทานติดต่อกันทุกวันในช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากหมดแผงต้องหยุดยา 7 วัน แล้วรับประทานแผงใหม่ต่อทันที
ยาเจสโตดีน(Gestodene) ข้อมูล ข้อบ่งใช้ กลไกการออกฤทธิ์
ยาเจสโตดีน(Gestodene) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงสังเคราะห์ที่นำมาใช้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิด จัดอยู่ในประเภทสเตียรอยดอล โปเจสติน (Steroidal progestin) รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทานที่สามารถดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหาร หลังการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ยาเจสโตดีนจะอยู่ในกระแสเลือดนานประมาณ 16 – 18 ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกขับออกจากร่างกายโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
สูตรตำรับของยาเจสโตดีนที่มีจำหน่าย มักจะมีส่วนผสมของฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ร่วมด้วย และหากนำยาเจสโตดีนมาทำสูตรตำรับร่วมกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็จะทำให้การใช้ปริมาณของยาเจสโตดีนลดลงได้อีก ซึ่งเหมาะที่จะใช้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีปริมาณไขมันในเลือดสูง