วิตามินแบบฉีดกับวิตามินแบบรับประทาน ต่างกันอย่างไร

การมีสุขภาพที่ดีนอกจากการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่แล้ว การเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกาย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบของร่างกายส่วนที่เสื่อมสภาพจากภายใน แต่ในปัจจุบันมีวิตามินหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งในรูปแบบการฉีดวิตามินและวิตามินแบบรับประทาน แล้วแบบไหนที่เหมาะและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน

วิตามินแบบฉีด หรือ ดริปวิตามิน (IV Drip) เป็นการให้สารวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านหลอดเลือดดำทางสายน้ำเกลือ เพื่อเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพซึ่งจะช่วยบำรุงและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบของร่างกายส่วนที่เสื่อมสภาพ รวมทั้งด้านการบำรุงผิวพรรณจากภายใน

วิตามินแบบรับประทาน เป็นการรับประทานเข้าสู่ร่างกาย โดยรูปแบบของวิตามินที่ใช้กันนั้นก็แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

  • วิตามินมาตรฐาน ซึ่งเป็นวิตามินที่ปรุงเป็นสูตรสำเร็จ หาซื้อได้ตามท้องตลาด ข้อเสียก็คือ ปริมาณวิตามินที่ได้รับ (dose) อาจไม่เพียงพอ ถ้าคุณขาดวิตามินหรือแร่ธาตุหลายชนิด คุณก็อาจจะต้องกินหลายชนิดและกินกันเป็นกำ ๆ เลยทีเดียว
  • วิตามินเฉพาะบุคคล คือ วิตามินและสารอาหารที่แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยออกแบบ เลือกกำหนดส่วนผสมและปริมาณขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ จากการวิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพเพื่อให้ได้รายการชนิดและปริมาณวิตามินตรงตามที่ร่างกายต้องการ

ข้อดี – ข้อเสียของการรับวิตามินแต่ละแบบ

แบบกิน
ข้อดี: หาซื้อง่าย ไม่มีบาดแผล ทานง่าย
ข้อเสีย: หากรับประทานปริมาณมากเกินไป ไตทำงานหนักเกินไป น้ำตาลตกค้างอาจนำไปสู่การเป็นเบาหวานได้
ระยะเวลาผลลัพธ์: อย่างน้อย 3 เดือน

แบบฉีด
ข้อดี: เจ็บเล็กน้อย
ข้อเสีย: รับปริมาณมากเกินไปจะเกิดผลเสียต่อร่างกาย ต้องดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ระยะเวลาผลลัพธ์: เห็นผลไว เมื่อรับบริการ 3 ครั้งขึ้นไป



แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– nakornthon.com
– atomclinicofficial.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

ยังไม่มีบัญชี