ความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ง่ายเมื่อเราอายุมากขึ้น คือสุขภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอยลง โอกาสที่จะไม่สบายหรือเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุต่างๆ เกิดขึ้นได้ง่าย แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องใช้กล้ามเนื้อ เช่น เดินขึ้นบันได เปิดกระตู เปิดฝาขวดน้ำ ก็ดูเป็นสิ่งที่ยาก หรือหากเกิดการกระแทกเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้กระดูกแตกหรือหักได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นั่นเพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะค่อยๆ เกิด “ภาวะการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ” หรือ “ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย” (Sarcopenia) อย่างช้าๆ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็อาจสายเกินไปสำหรับการชะลอความเสื่อมของมวลกล้ามเนื้อตั้งแต่ระยะแรกๆ การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อจึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันร่างกาย ที่สำคัญ ซึ่งเราไม่ควรมองข้าม
กล้ามเนื้อมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร
การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่มักพบในผู้สูงอายุ ช่วยคงความหนาแน่นของมวลกระดูก และยังช่วยรองรับแรงกระแทกทำให้กระดูกไม่หักเวลาหกล้ม รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ มวลกล้ามเนื้อยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโรคอ้วนลงพุงและโรคเบาหวาน ที่เกิดจากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอ ยิ่งร่างกายมีปริมาณกล้ามเนื้อมาก การกักเก็บคาร์โบไฮเดรตก็จะมีมาก ความสามารถในการตอบสนองต่ออินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันของร่างกายก็มีมากตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อชะลอภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ผู้สูงอายุจำเป็นต้องได้รับโปรตีนที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพอ และสารอาหารอื่นๆ ได้แก่ โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี เพื่อช่วยในการปรับสมดุลการทำงานของกล้ามเนื้อให้เป็นปกติ
ภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) คือ ภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรง ซึ่งการสลายของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อโดยตรง หรือจากการออกแรงของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะการวิ่งระยะไกลและการวิ่งลงเนิน นอกจากนี้ กล้ามเนื้อสลายยังเกิดจากอาการกดทับจากอุบัติเหตุ รวมถึงผลกระทบจากยาบางชนิดและพันธุกรรม
ความร้อน ภาวะขาดน้ำและการออกกำลังกายหรือกีฬาแบบเอ็กซ์ตรีมเป็นสาเหตุร่วมที่พบบ่อยที่สุด เมื่อเกิดการบาดเจ็บ กล้ามเนื้อลาย (กล้ามเนื้อลาย (Skeletal muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่พบเป็นส่วนใหญ่ ประมาณ 40% ของมวลกาย มีหน้าที่สำคัญคือทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในกิจกรรมต่างๆ) จะปล่อยโปรตีนไมโอโกลบิน (Myoglobin) ซึ่งมีขนาดใหญ่สีแดง ทำหน้าที่เก็บออกซิเจนในเซลล์กล้ามเนื้อ
รวมถึงปล่อยเอนไซม์ซีเค (Creatine kinase: CK) ซึ่งเซลล์ต่างๆ ใช้ช่วยในการทำงานและปล่อยเกลือแร่ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เมื่อโปรตีนไมโอโกลบิน เอนไซม์ซีเคและเกลือแร่ รั่วไหลออกจากเซลล์ที่เสียหายเข้าสู่กระแสเลือด นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนมากมาย เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจหยุดเต้น และภาวะไตวาย
สัญญาณเตือนภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
ร่างกายของคนเรามีการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อ ไขมันและกระดูกอยู่ตลอดเวลา เมื่ออายุมากขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลงกว่าเดิมจะส่งผลให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการต่างๆ ที่เป็นสัญญาณสื่อให้รู้ว่าผู้สูงอายุอาจมีมวลกล้ามเนื้อน้อยลง เช่น รู้สึกอ่อนแรง เหนื่อยง่าย เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก ลุกนั่งลำบาก ทรงตัวไม่ดี อาจหกล้มบ่อย น้ำหนักตัวลดลงอย่างสังเกตเห็นได้ หรือมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย
ผู้สูงอายุที่้มีภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออาจมีความเสี่ยงต่อการหกล้มสูงมากกว่าปกติถึง 3 เท่า จึงควรให้ความสำคัญและสังเกตสัญญาณของภาวะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เพราะอาจนำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
อาการของภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย
Rhabdomyolysis อาจส่งผลให้ผู้ป่วยแต่ละรายแสดงอาการแตกต่างกัน ซึ่งอาจมีอาการทางกล้ามเนื้อร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ โดยอาการที่สำคัญ มีดังนี้
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่บริเวณแขนขา และเคลื่อนไหวลำบาก
- ปวดกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ หลังส่วนล่าง หรือต้นขา
- ปัสสาวะเป็นสีน้ำตาลแดงหรือสีเหมือนน้ำโคล่า
ส่วนอาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ มีดังนี้
- กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย
- รู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย มีไข้
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ
- มีรอยฟกช้ำตามตัว
- ปวดตามข้อ
- ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
- หัวใจเต้นเร็ว
- สับสน กระวนกระวาย
- ชัก หมดสติ
สาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis)
สาเหตุของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
สาเหตุทางกายภาพ
- นักวิ่งที่เพิ่มความเข้มข้นในการฝึกซ้อมอย่างกะทันหัน หลังจากช่วงเวลา ปรับสภาพร่างกาย เช่น การฟื้นตัวจากอาการป่วยหรือการพักการฝึก
- การออกกำลังกายหรือใช้แรงอย่างหักโหม เช่น วิ่งมาราธอน
- การแข่งกีฬาในระดับความหนักและนานกว่าที่เคยฝึกซ้อมมากๆ
- การฝึกซ้อมหรือการแข่งขันในขณะที่ขาดน้ำ ในวันที่อากาศร้อนจัด หรือภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ เป็นเวลานาน
- อุบัติเหตุรุนแรงต่อกล้ามเนื้อในลักษณะบด อัด กด ทับ (Crush injury) เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์ ดินถล่ม
- การชักเกร็งอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคลมชัก
สาเหตุที่ไม่ใช่ทางกายภาพ
- ผลกระทบจากการรับประทานยาสแตติน เพื่อลดคอเลสเตอรอล ยาแก้แพ้ ยาแก้คลื่นไส้ และยาทางจิตเวช รวมถึงยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS)
- อาการป่วยจากไวรัสหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัญหาต่อมไร้ท่อ ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม
- ภาวะกล้ามเนื้อขาดเลือด เช่น ภาวะติดเตียงเป็นเวลานาน
- การดื่มแอลกอฮอล์
- การผ่าตัด หรือได้รับยาสลบ
การเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
การดูแลกล้ามเนื้อให้แข็งแรงทำได้ง่ายๆ จากการรักษาสมดุลของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ โดยสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อคือ โปรตีน ซึ่งต้องได้รับอย่างเพียงพอในปริมาณที่สมดุลในแต่ละวัน เพื่อเสริมสร้างเซลล์กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็นสูง เช่น ถั่วเหลือง เนื้อปลา เนื้อวัว เพื่อป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและช่วยเพิ่มเส้นใยของกล้ามเนื้อ

เมื่อร่างกายได้แหล่งพลังงานจากสารอาหารแล้ว การออกกำลังกายแบบแรงต้านจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อได้ หลักการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุควรเริ่มจากการยืดกล้ามเนื้อและอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ และควรเลือกการออกกำลังกายในแบบที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Resistive Exercise) อย่างน้อย 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบเพิ่มความทนทาน (Aerobic Exercise) ซึ่งจะช่วยสร้างโปรตีนของกล้ามเนื้อ และช่วยให้ไขมันในกล้ามเนื้อลดลง
การออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้สูงอายุมีหลายประเภท เช่น การเดินเร็วหรือวิ่งช้าๆ การว่ายน้ำหรือเดินในน้ำ ขี่จักรยาน กายบริหาร รำมวยจีน และโยคะ เป็นต้น
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ให้โปรตีนจำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม เป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าวัยผู้สูงอายุ
เสริมโปรตีนชะลอภาวะการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
นอกจากการรับประทานอาหารมื้อหลักตามปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหารยังเป็นทางเลือกของแหล่งโปรตีนที่สำคัญสำหรับผู้สูงวัย เพราะในช่วงอายุระหว่าง 40-70 ปี โดยเฉลี่ยแล้วจะรับประทานอาหารน้อยลงถึง 25%ซึ่งมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น การเบื่ออาหารเนื่องจากระบบย่อยอาหารที่ทำงานได้ลดลง โรคประจำตัวที่จำกัดประเภทของอาหาร รวมถึงสภาพอารมณ์ที่ซึมเศร้าก็มีผลต่อความอยากอาหารในผู้สูงอายุ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ รวมถึงโปรตีนซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ควรเสริมด้วยโปรตีนที่หลากหลาย เช่น เวย์โปรตีน (Whey Protein) เคซีนโปรตีน (Casein Protein) โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง (Soy Protein Isolate) เป็นต้น เพื่อช่วยชะลอภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยและเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ
เวย์โปรตีนและเคซีนโปรตีนพบได้มากในนมวัวทั่วไป เวย์โปรตีนนั้นอุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็นสูง เป็นโปรตีนที่ร่างกายย่อยได้ง่าย และมีกรดอะมิโนลิวซีน (Leucine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญในการช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ส่วนเคซีนนั้นเป็นโปรตีนชนิดฟอสโฟโปรตีน (phosphoprotein) ที่พบราว 80% ของโปรตีนทั้งหมดในน้ำนม มีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ โปรตีนชนิดนี้จะถูกร่างกายดูดซึมและนำไปใช้อย่างช้าๆ ช่วยให้กรดอะมิโน ในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
สำหรับโปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่างๆ เช่น กรดอะมิโน คาร์โบไฮเดรต ไขมันดี มีวิตามิน เกลือแร่ และยังมีกากใยอาหารสูง
การเสริมโปรตีนที่หลากหลายทั้ง 3 ชนิดในปริมาณที่สมดุลในผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยชะลอภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยในระยะยาวได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลสมิติเวช
– web pobpad
– web family.abbott
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM