เมื่อขับถ่ายแล้วมีเลือดออกหลายคนมักคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวาร และไม่เคยคาดคิดว่าเป็นสัญญาณเตือนของเนื้องอกหรือโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทั้งที่อาการของริดสีดวงทวารบางอาการมีความคล้ายคลึงกับโรคมะเร็ง ดังนั้นการสังเกตอาการและไม่ชะล่าใจโดยการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์เฉพาะทางจะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก่อนสายเกินแก้
ปัจจัยเสี่ยงริดสีดวงทวาร
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร ได้แก่
- ท้องผูกเรื้อรัง
- ท้องเสียบ่อย
- ถ่ายอุจจาระบ่อย
- นั่งถ่ายอุจจาระนาน
- เบ่งแรงขณะขับถ่าย
- ใช้ยาระบาย ยาสวนอุจจาระบ่อยโดยไม่จำเป็น
- อายุมาก กล้ามเนื้อหย่อนยาน
- ไอเรื้อรัง
- น้ำหนักมาก
- ยกของหนัก ออกแรงมาก
- โรคตับแข็ง ส่งผลถึงเส้นเลือดดำบริเวณทวารโป่งพอง
- กรรมพันธุ์ มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้
- ตั้งครรภ์ ขับถ่ายไม่สะดวก
อาการของริดสีดวงทวาร VS เนื้องอก / มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
เพราะอาการของริดสีดวงทวารและเนื้องอก / มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายมีความคล้ายคลึงกัน การสังเกตอาการของโรคจึงเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาให้ถูกโรคและถูกวิธี
ริดสีดวงทวาร
- ถ่ายเป็นเลือดสด
- อาจคลำได้ก้อนยื่นจากรูทวาร
- อาจมีก้อนเนื้อยื่นและยุบกลับเข้าไปทวารหนักได้
- อาจมีอาการปวดจากริดสีดวงด้านนอก
- อาจมีอาการหลังท้องผูก ต้องเบ่งหรือถ่ายบ่อย
- คันหรือระคายเคืองรอบปากทวารหนัก
เนื้องอก/มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
- ถ่ายเป็นเลือดสด/เป็นมูกปนเลือด
- ตรวจแล้วจึงเจอก้อนเนื้องอกในรูทวาร(ตรวจโดยพทย์ผู้ชำนาญ)
- ไม่มีก้อนเนื้อยื่นออกมา
- ส่วนใหญ่ไม่ปวดก้นถ่ายอุจจาระบ่อย ถ่ายไม่สุด หรือถ่ายอุจจาระลำเล็กลง
- มีมูกเลือดออกจากทวารหนัก
การรักษาริดสีดวง
วิธีการรักษาโรคริดสีดวงขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของแต่ละบุคคล ได้แก่
- การรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยไม่ผ่าตัด ประกอบไปด้วย
เหน็บยา โดยแพทย์จะสั่งยาเหน็บรักษาริดสีดวงที่ช่วยรักษาอาการให้ดีขึ้น
ฉีดยา เข้าไปในตำแหน่งริดสีดวงบริเวณใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อให้หัวริดสีดวงยุบลง โดยจะมีการฉีดซ้ำทุก 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อให้หัวริดสีดวงยุบ
ใช้ยางรัด บริเวณหัวริดสีดวงเพื่อให้หัวริดสีดวงฝ่อและหลุดออก วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เฉพาะทาง เพราะอาจเกิดการติดเชื้อและผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ - การรักษาโรคริดสีดวงทวารโดยการผ่าตัด ในกรณีที่ริดสีดวงมีขนาดใหญ่มากจนไม่สามารถกลับเข้าไปได้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนและชนิดของริดสีดวงทวาร ประกอบไปด้วย
การผ่าตัดริดสีดวงแบบเปิด สำหรับผู้ป่วยที่มีริดสีดวงภายนอกขนาดใหญ่หรือริดสีดวงภายในหย่อนออกจากลำไส้ตรง แพทย์ผู้ชำนาญจะทำการผ่ารอบทวารหนักและนำริดสีดวงทวารออกมา
การผ่าตัดริดสีดวงแบบเปิด สำหรับผู้ป่วยที่มีริดสีดวงภายนอกขนาดใหญ่หรือริดสีดวงภายในหย่อนออกจากลำไส้ตรง แพทย์ผู้ชำนาญจะทำการผ่ารอบทวารหนักและนำริดสีดวงทวารออกมา
การผ่าตัดริดสีดวงโดยใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ สำหรับผู้ป่วยที่ริดสีดวงหย่อนออกมาภายนอก แพทย์จะใช้เครื่องมือตัดเย็บริดสีดวงเพื่อให้ริดสีดวงกลับเข้าไปในลำไส้ตรง ป้องกันเลือดไปเลี้ยง เนื้อเยื่อจะเล็กลงและตายไป
การผ่าตัดริดสีดวงด้วยเลเซอร์ เหมาะกับริดสีดวงในระยะที่ยังไม่รุนแรงและหัวไม่ใหญ่นัก โดยจะใช้แสงเลเซอร์เข้าไปทำลายเส้นเลือดบริเวณหัวริดสีดวงให้ค่อย ๆ ฝ่อลง และยุบลงในที่สุด วิธีนี้นอกจากเจ็บน้อย หายเร็ว ยังใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นขณะผ่าตัด
ในกรณีที่แพทย์ผู้ชำนาญการตรวจพบว่าไม่ใช่ริดสีดวง แต่เป็นเนื้องอก / มะเร็งลำไส้ตรงหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ปัจจุบันมีการผ่าตัดรักษาด้วยวิธีผ่านกล้อง (Minimally Invasive Surgery) และการผ่าตัดรักษามะเร็งลำไส้ตรงโดยวิธีการเก็บกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก (Sphincter Saving Surgery) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องขับถ่ายผ่านทวารเทียมทางหน้าท้อง อย่างไรก็ตามหากมีอาการผิดปกติควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์เฉพาะทางผู้มีความชำนาญเพื่อรีบทำการรักษาโดยเร็ว คืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กลับมาอีกครั้ง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– เว็บพบแพทย์
– โรงพยาบาลกรุงเทพ
– โรงพยาบาลเปาโล
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM