ยา Hydrochlorothiazide (ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์) – ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

Hydrochlorothiazide (ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์) เป็นยาขับปัสสาวะในกลุ่มไทอะไซด์ (Thiazide Diuretic) ทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกำจัดเกลือและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ใช้รักษาผู้ป่วยความดันโลหิตสูง รวมถึงรักษาภาวะคั่งน้ำในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว โรคตับแข็ง โรคไต อาการบวมน้ำจากการใช้ยาสเตียรอยด์หรือยาฮอร์โมนเอสโตรเจน
หน้าที่หลักของยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์/ HCTZ คือ การยับยั้งหรือชะลอการดูดน้ำกลับเข้าร่าง กายที่กรวยไต ส่งผลให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง เลือดที่ไหลเวียนเข้าหัวใจเพื่อสูบฉีดไป เลี้ยงร่างกายก็ลดลงเช่นเดียวกัน และยังมีกลไกอื่นอีกที่สนับสนุนเหตุผลข้างต้น เช่นทำให้ความดันโลหิตลดลง
หลังจากรับประทานยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์/ HCTZ และยาดูดซึมทางระบบทางเดินอาหารเข้ากระแสเลือด ปริมาณยามากกว่า 95% ไม่ได้ถูกเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี ร่างกายใช้เวลาประ มาณ 5.6 – 14.8 ชั่วโมงในการกำจัดยาออกจากร่างกาย 50% โดยผ่านไปกับน้ำปัสสาวะ
ยา ARBs (Angiotensin Receptor Blockers)- ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของสารแองจิโอเทนซิน 2 (Angiotensin II) ที่ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ ส่งผลให้หลอดเลือดขยายหรือคลายตัว ความดันในหลอดเลือดจึงลดลงและหัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ อาจนำไปใช้รักษาหรือป้องกันปัญหาสุขภาพอื่นตามดุลยพินิจของแพทย์
แพทย์จะจ่ายยา ARBs ให้กับผู้ป่วยแตกต่างกันไป บางกรณีอาจใช้แทนกลุ่มยาที่มีลักษณะคล้ายกัน อย่างยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitor) ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ตอบสนองต่อยาได้ไม่ดีหรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หลังใช้ยาในกลุ่มดังกล่าว ตัวอย่างยาในกลุ่ม ARBs เช่น ยาลอซาร์แทน (Losartan) ยาเทลมิซาร์แทน (Telmisartan) ยาอาซิลซาร์แทน (Azilsartan) ยาแคนดิซาร์แทน (Candesartan) หรือยาโอลมีซาร์แทน (Olmesartan) เป็นต้น
ยา Irbesartan (เออร์บีซาร์แทน) – ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

เออร์บีซาร์แทน (Irbesartan) จัดอยู่ในกลุ่มยากลุ่มยับยั้งตัวรับแอนจิโอเทนซิน (angiotensin repector inhibitors) หรือเรียกย่อว่า “กลุ่มเออาร์บี (ARBs)” ออกฤทธิ์โดยยับยั้งและแย่งการจับของแองจิโอเทนซิน 2 (angiotensin II) ตรงตำแหน่งที่จะไปออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือด ส่งผลให้ลดแรงต้านของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัวและทำให้ความดันเลือดลดลง ออกซิเจนไปเลี้ยงหัวใจมากขึ้น และลดการทำงานของหัวใจ
Cefixime ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาหนองใน ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียงที่ควรระวัง

ตัวยาสำคัญ
ยา Cefspan 100 mg ประกอบด้วยตัวยา cefixime 100 mg
ข้อมูลทั่วไป
Cefspan ประกอบด้วยตัวยาสำคัญคือ Cefixime 100 mg เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรียในกลุ่ม Third generation cephalosporin ออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งแกรมบวกและแกรมลบหลายชนิด
ใช้ในการรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อของหูชั้นในอักเสบ การติดเชื้อทางเดินหายใจ (คอหอยอักเสบและทอนซิลอักเสบ) ใช้ในการรักษาหลอดลมอักเสบเฉียบพลันเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคหนองในที่ปากมดลูกและท่อปัสสาวะ เป็นต้น
Azithromycin 250 mg (อะซิโธรมัยซิน) ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ สิ่งที่ต้องระวังเมื่อต้องใช้ยา

ซิโธรแมกซ์ มีตัวยาสำคัญ คือ Azithromycin 250 มก. จัดเป็นยาปฏิชีวนะใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ติดเชื้อที่หู ผิวหนัง คอ หรือต่อมทอนซิล ใช้รักษาโรคปอดและระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดบวม โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease (COPD)) และโรคไอกรน (pertussis)
นอกจากนี้ Azithromycin ยังใช้รักษาอาการติดเชื้อที่อวัยวะเพศและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน การติดเชื้อในท่อปัสสาวะหรือปากมดลูก แผลที่อวัยวะเพศและโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบอย่างรุนแรง Azithromycin เป็นยาปฏิชีวนะอยู่ในกลุ่ม macrolide ซึ่งทำงานโดยป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้สร้างโปรตีนของตัวมันเอง
ยา Dicloxacillin 500 Mg คำเตือนและการใช้ยา

Dicloxacillin (ยาไดคลอกซาซิลลิน) คือ ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) ที่นำมาใช้รักษาการติดเขื้อจากแบคทีเรียได้อย่างหลากหลาย เช่น โรคติดเชื้อที่กระดูก ผิวหนัง หู และระบบทางเดินปัสสาวะหรืออาจนำมาใช้ในการรักษาโรคหรืออื่น ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ โดยยา Dicloxacillin มีกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย จึงช่วยหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม ยา Dicloxacillin มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร
ข้อควรรู้ในการใช้ยาระบายมะขามแขก

มะขามแขก (Senna alexandrina P. Miller) เป็นสมุนไพรไทยที่ใช้ในการบรรเทาอาการท้องผูกกันมาอย่างยาวนาน โดยนำใบแห้งหรือฝักแห้งมาต้มเพื่อรับประทาน มีทั้งที่ใช้ในรูปแบบสมุนไพรเดี่ยวและผสมร่วมกับสมุนไพรอื่น นอกจากนั้นมะขามแขกยังได้รับการพัฒนาเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน (ยาเม็ด) หรือยาพัฒนาจากสมุนไพร (ยาเม็ด ยาแคปซูล และยาชง) อีกด้วย โดยยาเหล่านี้มีการควบคุมปริมาณสารออกฤทธิ์หลัก (sennoside A และ sennoside B) ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
ประโยชน์ของมะขามแขก

มะขามแขก (อังกฤษ: Indian Senna,Tinnevelly Senna) มีทรงต้นเป็นพุ่มหรือกอขนาดเล็กแตกกิ่งก้านสาขามากมาย จะสูงประมาณ 60-150 เซนติเมตร ใบเหมือนกับกับมะขามทั่วไป แต่จะยาวกว่า และที่ปลายใบแหลมกว่า ก้านใบมีใบย่อย ประมาณ 7 คู่ และ ใบมีสีเขียว มีรสเปรี้ยวหวานชุ่ม ยอดของกิ่งจะออกดอกเป็นช่อสีเหลือง จะมีกลีบที่รองดอกและกลีอดอกเกือบมีขนาดที่เท่ากันจำนวน 5 กลีบ ออกผลเป็นฝักลักษณะเหมือนกับถั่วลันเตา แต่จะแบนกว่า กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7 เซนติเมตร มีสีเขียวใสตอนยังอ่อน เมื่อแก่จะกลายเป็นสีดำ มีเมล็ดประมาณ 6 เมล็ด มีรสเปรี้ยว